วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คอมพิวเตอร์ในอนาคต

แนวโน้มเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต
        บล็อกนี้ผมสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต เพราะการดำเนินชีวิตของมนุษย์เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น เทคโนโลยีในปัจจุบันได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการพัฒนาศักยภาพ ประสิทธิภาพความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช่ในองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากขึ้น ทั้งนี้เพราะการเติบโตของเทคโนโลยีและการแข่งขันกันสูง จึงทำให้ในองค์กรต่างๆต้องมีการพัฒนาองค์กรให้เป็นในแบบดิจิตอล หรืออิเลกทรอนิกยิ่งขึ้น เพราะการนำเทคโนโลยีมาใช้ปฏิบัติงานภารกิจต่างๆในองค์กรนั้นสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี เพราะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรสามารถทำให้การทำงาน การประมวลผลข้อมูลมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดั่ง เช่น เอชพี แสกนเจช ที่สามารถแปลเอกสารเป็นดิจิตอลไฟล์ได้ นับเป็นก้าวที่พัฒนาขององค์กรเป็นอย่างมาก ที่ไม่ต้องเสียเวลาแปลงข้อมูลเอกสารโดยตนเอง ซึ่งเป็นทั้งการประหยัดแรงงาน และ เวลา ที่สำคัญยังได้ข้อมูลที่แม่นยำด้วย จึงสามารถมองไปถึงอนาคตได้ว่าเทคโนโลยีกับองค์กรจะมีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นอย่างแยกไม่ออก องค์กรต้องพึ่งพิงเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้าเทคโนโลยียังมีการพัฒนาไม่หยุดหย่อน ประชากรพนักงานก็ต้องว่างงานมากขึ้น เพราะอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งกำลังคนต่อไป ซึ่งส่วนนี้ก็อาจเป็นอุปสรรคในการนำเทคโนโลยีเข้ามาในองค์กรเช่นกัน แต่ในทางกลับกันอีกในอนาคตพนักงานอาจไม่ต้องมาทำงานถึงบริษัท แค่นั่งเปิดเครือข่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่บ้านด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวก็อาจเป็นสิ่งสะดวกในการไม่ต้องเดินทาง ซึ่งเป็นการเอาร์ซอท งานออกไปจากบริษัทเพื่อความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในอนาคตอาจจะได้เห็นการพัฒนาขององค์กรภาครัฐไปสู่ความเป็นยุคไฮเทคมากยิ่งขึ้นและในเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่นอกเหนือจากในองค์กรแล้ว เทคโนโลยีที่ใกล้ตัวเราเช่นหน้าจอการแสดงผล ที่เราเคยพบเจอในแบบlcdบางๆ แต่มันได้มีการพัฒนามาสู่หน้าจอแบบม้วนพับได้ หรือโอแอลอีดี ซึ่งในอนาคตข้างหน้าเราอาจได้จำเป็นต้องใช้มัน เราเห็นการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก เพราะในสัปดาห์ที่แล้วทางเราก็ได้เพิ่งนำเสนอจอlcdที่เป็นทีวีรุ่นใหม่ แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียวก็ได้เห็นพัฒนาการที่จะเกิดเป็นแบบม้วนพับได้ พกพาสะดวกสบายอย่างโอแอลอีดี จึงเป็นไปได้ว่า ในอนาคตคงน่าทึ่งกว่านี้อาจจะเป็นหน้าจอล่องหนไปเลยก็ได้ ในเมื่อการพัฒนาในสิ่งที่เป็นhardware ได้พัฒนาไปไม่มีที่สิ้นสุด การพัฒนาsoft ware ก็ได้พัฒนาไปเรื่อยๆเช่นกัน เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น ดังเช่นการพัฒนาของกูเกิ้ล เกียส ที่จะมีการพัฒนาระบบเป็นแบบoffline ขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันต้องการที่จะให้เข้าถึงประชาขนได้ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นธุรกิจสำคัญที่ต้องมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความนิยมใช้งานง่ายสะดวกสบายต่อประชาชนทุกภาคส่วนในอนาคตเราจึงอาจได้เห็นสิ่งที่เรียกว่ากูเกิ้ล เกียสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมันสามารถทำให้เราสืบค้นข้อมูลต่างๆได้ง่ายรวดเร็วยิ่งขึ้นไป และอาจจะเห็นการพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่องด้วย และที่สำคัญพวกhardware ก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อรองรับsoft wareที่จะเกิดขึ้นด้วย ทุกส่วนจึงย่อมมีความสัมพันธ์กัน
คลื่นลูกใหม่เทคโนโลยีจอแสดงผล
        อีกไม่นาน เทคโนโลยีจอแสดงผลอาจเปลี่ยนรูปโฉมไปอีกขั้นโดยมีการพัฒนาให้มีขนาดบางลง ถึงขนาดว่าสามารถม้วนพับเก็บไว้ได้ ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงและมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นมาทดแทน เทคโนโลยีจอแสดงผลแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างจอแสดงผลแอลซีดีที่ยังมี ข้อเสียตรงที่ใช้พลังงานมาก เทคโนโลยีที่จะเข้ามาทดแทนแอลซีดีในวันข้างหน้า ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์แสดงผลฟิล์มบางอินทรีย์เปล่งแสง หรือ โอแอลอีดี (OLED: Organic light-emitting diode) และเทคโนโลยีที่เรียกว่าไบ-สเตเบิล ซึ่งเแม้แต่ในปัจจุบันก็มีออกมาให้เห็นบ้างแล้วทั้งในเครื่องเล่นเกม เครื่องเล่นสื่อดิจิตอลเพื่อความบันเทิง เครื่องเล่นเพลงดิจิตอล และโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะหรือสมาร์ทโฟน
        ข้อดีของจอแสดงผลแบบโอแอลอีดีคือ ใช้พลังงานน้อยกว่าจอแบบแอลซีดีในขนาดเท่าๆ กันสูงถึง 40% ทั้งยังบางกว่าเป็นเท่าตัว เนื่องจากไม่ต้องอาศัยการส่องแสงออกมาจากหลังภาพ ทั้งยังให้ภาพที่คมชัดกว่า ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ทดลองใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาขนาดเล็กอย่างเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และไรน์คอม รวมถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นบางจากเคียวเซร่า นอกจากนี้ทางโซนี่ คอร์ปอเรชั่นเองยังมีแผนจะทำตลาดจอทีวีขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีโอแอลอีดี ภายในปีนี้ด้วย แม้ในวงการสื่อสารไร้สายเทคโนโลยีโอแอลอีดีจะยังเพิ่งเริ่มแต่ในการพัฒนาจอ แสดงผลรุ่นดังกล่าวเพื่อทำตลาดมีปรากฏให้เห็นบ้างในกลุ่มผู้ผลิตจอแสดงผล แบบแอลซีดี ทั้งซัมซุง เอสดีไอ และโซนี่ จากการประเมินของบริษัทวิจัยด้านการตลาดไอซัพพลาย ตลาดสำหรับจอแสดงผลแบบโอแอลอีดี และแอลซีดีที่ใช้พลังงานน้อยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจนถึง ปีพ.ศ. 2555 อาจมียอดขายมากถึง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 27% เทียบกับยอดขายในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
         นอกจากเทคโนโลยีโอแอลอีดีแล้วยังมีเทคโนโลยีจอแสดงผลที่เรียกว่า ไบ-สเตเบิล ซึ่งรักษาสถานะการแสดงผลภาพไว้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานทำให้เหมาะต่อการใช้ เป็นจอแสดงผลในสถานที่สาธารณะและจอแสดงผลย่อยบนอุปกรณ์ต่างๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องพัฒนาในด้านของคุณภาพภาพที่ยังไม่ละเอียดมากนัก ก่อน
         รายงานข่าวแจ้งว่า นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถอ่านใจมนุษย์ได้ โดยวิเคราะห์จากการแสดงสีหน้า และสามารถแปลความหมายของความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้นโครงการวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาจูเซท ประเทศสหรัฐ โดยศาสตราจารย์ปีเตอร์ โรบินสันจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในประเทศอังกฤษกล่าวว่า “ระบบดังกล่าวมีความสามารถในการแยกแยะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ขณะนั้นได้ เพียงแค่หันวิดีโอไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง (ระบบคอมพิวเตอร์ก็สามารถรับทราบถึงอารมณ์ความรู้สึกขณะนั้นของคนนั้นแล้ว)”
นักพัฒนายังเชื่อว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในวงการโฆษณา โดยบริษัทต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อแปลความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์ของผู้บริโภค เพื่อปรับโฆษณาของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค
“ลองนึกภาพคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่สามารถเลือกใช้อารมณ์ในการนำเสนอที่เหมาะสม และพยายามจะขายบางสิ่งบางอย่างกับคุณ ซึ่งในอนาคต โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตลอดจนเว็บไซต์สามารถอ่านใจ และตอบสนองอารมณ์ และความรู้สึกของผู้บริโภคได้” ศาสตราจารย์ โรบินสัน กล่าว
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ โดยเมื่อนำไปใช้กับเว็บแคม ระบบอีเลิร์นนิ่งจะตัดสินใจได้ว่า ผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียน หรือไม่ได้อีกด้วย
         เทคโนโลยีดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการวิจัย เพื่อนำไปใช้ในรถยนต์ ซึ่งจะทำให้มันสามารถตัดสินใจได้ว่า ผู้ขับมีความระมัดระวัง และตื่นตัวอยู่ตลอดในระหว่างการขับขี่ หรือไม่? โดยคาดว่าจะออกมาให้ทั่วโลกยลโฉมภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
        
                                                                                            ที่มา...http://tech.mthai.com
 
                                                                                   โทรศัพท์คอมพิวเตอร์
                                                        
 
                                                                                        ปากกาคอมพิวเตอร์
 
                                                 

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นาย ปรัชญานนท์   ทองนวล  ป.ว.ช. 1/6   สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
วันเกิด   วัน พุธ ที่  17   เมษายน  พ.ศ.2539
จบการศึกษาจาก  ร.ร.  เบญจมราชานุสรณ์ 
 กรุ๊ปเลือด  B
งานอดิเรก  เล่นคอม   เล่นบาส